ไพรวัลย์ โดนถล่มยับ สึกแล้วบ้งหนักมาก! หลังสวนเดือดปมบูลลี่เป็นเต่า

ไพรวัลย์ โดนถล่มยับ สึกแล้วบ้งหนักมาก! หลังสวนเดือดปมบูลลี่เป็นเต่า

ชาวเน็ตถล่ม ไพรวัลย์ ไลฟ์สดสวนเดือด หลังโดนทักหน้าเหมือนเต่า บอกคนทำศัลยกรรม ปลอมทั้งหน้า เจ้าตัวยันไม่มีปัญหากับคนทำศัลยกรรม ไพรวัลย์ วรรณบุตร ตกเป็นกระแสพูดถึงบนโลกโซเชียลอีกครั้ง เที่ยวนี้ชาวเน็ตข้องใจ ทำไมก่อนสึกกับหลังสึก ต่างกันมาก หลังจากวันที่ 28 ม.ค.65 ทิด อดีตพส. มีการไลฟ์คู่กับมินยง หนุ่มเกาหลีอีกครั้ง ซึ่งเนื้อหาส่วนใหญ่ก็พูดคุยกันในเรื่องทั่วไปหลายเรื่อง มีการตอบคำถามที่ส่งเข้ามา อาทิ เรื่องหวย เรื่องแว่นใครสวยกว่า อาหารไทย

อย่างไรก็ตาม ประเด็นดราม่าบังเกิดขึ้นเมื่อมีคนไปโพสต์วิจารณ์ ไพรวัลย์

 ว่าหน้าเหมือนเต่า จนเกิดอาการโมโห กล่าวว่า ถ้าหากมีความสุขจากการบูลลี่คนอื่นว่าหน้าเหมือนเต่า ไม่เป็นไร ถือว่าเป็นการทำทานให้กับสัตว์ร่วมโลก แต่ก็อย่าลืมไปเช็กสภาพหนังหน้าตัวเองด้วยนะ ว่าคนอื่นเป็นเต่า แล้วตัวเองหน้าเหมือนปลาปักเป้า ฉีดอะไรเข้าไป ของปลอมทั้งนั้น ปลอมทั้งตัว ปลอมทั้งใจ ยังมีหน้ามาว่าคนอื่น

หน้าฉันเหมือนเต่า แต่หน้าฉันดั้งเดิม พ่อแม่ให้มา พวกที่มาบูลลี่ฉัน ส่องกระจกดู ปลอมทั้งหน้า Xหน้าหนังพลาสติก หน้าปลอมไม่เท่าไหร่ ใจปลอมอีก ไม่เป็นไร บูลลี่ไปเลย ฉันเห็นฉันบล็อก

เมื่อการสวนเดือดนี้ถูกหย่อนลงโลกออนไลน์ หลายคนไม่พอใจกับคำพูดในไลฟ์ของ ไพรวัลย์ โดยเฉพาะการสวนกลับด้วยการบูลลี่คนทำศัลยกรรม หลายคนยอมรับว่า ตั้งแต่สึกมามีหลายอย่างที่เปลี่ยนไป ทำให้คนเริ่มเอือมระอา สึกมาแล้วบ้ง แทนที่จะออกมาช่วยแฉเรื่องที่ซุกไว้ใต้พรมของวงการสงฆ์ กลับเลือกที่จะไม่พูดอะไร และเวลาใครมาด่าก็ด่ากลับแบบให้เจ็บกว่าเดิม 10 เท่า พร้อมตั้งข้อสงสัย บวชมาเกือบ 20 ปี ไม่ได้อะไรมาเลยเหรอ แถมยังไปเหยียดคนอื่นกลับอีก

ปมร้อนบูลลี่หน้าตาและการทำศัลยกรรมนี้ ลากยาวจนล่าสุด เวลาประมาณเที่ยงวัน ไพรวัลย์ ก็โพสต์ชี้แจงผ่านเฟซบุ๊กแฟนเพจของตัวเอง ระบุ ตัวเองไม่ได้มีปัญหากับคนใดก็ตามที่ศัลยกรรม แต่มีปัญหากับคนที่ศัลยกรรมแล้ว เอาความดููดีที่ได้มาบูลลี่คนอื่น

“ผมจะพูดให้ชัดอีกครั้งว่า ผมด่าเฉพาะคนที่ด่าผมก่อนเท่านั้น และผมไม่มีปัญหากับใครทั้งนั้นที่ไม่ด่าผมหรือบูลลี่ผมก่อน ผมให้เกียรติเฉพาะคนซึ่งมีเกียรติอันสมควรแก่การได้รับ ผมเคารพเฉพาะคนซึ่งเรียนรู้การเคารพผู้อื่นก่อน”

“ผมไม่ใช่คนที่จะทนกับใครหรืออะไรก็ตาม ที่พยายามทำเหมือนว่า ผมเป็นสิ่งของที่ไม่มีความรู้สึก ซึ่งใครจะมารังแกยังไงก็ได้ ขว้างอิฐมา ก็เตรียมรับอิฐก้อนที่ขว้างมาคืนไปด้วย คุณว่า ผมเป็นเต่า หน้าแก่ หัวล้าน หรืออะไรก็ว่าได้เลย แต่ถ้าผมกดเฟซเข้าไปดูแล้ว เห็นหน้าปลอมๆ ของคุณ หน้าพลาสติกของคุณ แล้วผมด่ากลับบ้าง อย่ามางอแงไม่ได้นะครับ”

“ผมไม่มีปัญหากับใครก็ตามที่ศัลย์ แต่ผมมีปัญหากับคนที่ศัลย์แล้ว เอาความดูดีที่ได้มาเพื่อบูลลี่คนอื่น แค่นี้เองครับ ประเด็นของผม”

“ทุกวันนี้ผมไม่เคยระรานใครก่อน จะสนุกบ้าง เฮฮาบ้าง ก็อยู่ในพื้นที่ของผม เพจของผม ผมไม่เข้าใจว่า ทำไมความเฮฮาหรือความสุขของผม จึงกลายเป็นสิ่งที่ทำลายความสงบสุขในชีวิตคนอื่น จนถึงขนาดว่า ต้องเข้ามาทุกข์ร้อนนอนดิ้น ด่าทอและเสียดสี อันนี้ผมไม่เข้าใจ”

“ปล. แล้วผมทำทานนะครับ ตัดคลิปในไลฟ์สดบางช่วงบางตอนไปให้คนเข้าใจผิด ได้ยอดวิว ยอดโฆษณา ถ้าจะทำมาหากินด้วยพฤติกรรมและความคิดทรามๆ แบบนี้ ก็ไม่ว่าครับ ผมถือว่า ผมทำทาน” โพสต์ชี้แจงล่าสุดของไพรวัลย์ หลังประเด็นดราม่าเดือดบูลลี่เรื่องคนทำศัลยกรรม

กฟผ. เผย มาตรการช่วยเหลือค่าไฟฟ้า – ลดต้นทุนการผลิต, ขยายเวลาโรงไฟฟ้า

กฟผ. เปิดเผยถึง มาตรการช่วยเหลือค่าไฟฟ้า โดยเป็นการดำเนินการปรับแผนการบริหารเชื้อเพลิง, ขยายเวลาการใช้งานโรงไฟฟ้า และรับภาระต้นทุนเชื้อเพลิงการผลิตไฟฟ้า

เมื่อวันที่ 27 มกราคม 2565 – การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ได้ทำการเปิดเผยถึง มาตรการช่วยเหลือค่าไฟฟ้า หรือแนวทางการแบ่งเบาภาระค่าไฟฟ้า โดยมีด้วยกัน 3 แนวทางภายในการผลิตไฟฟ้า ได้แก่ ปรับแผนการบริหารใช้งานเชื้อเพลิง, ขยายเวลาการใช้งานโรงไฟฟ้า และรับภาระต้นทุนเชื้อเพลิงการผลิตไฟฟ้า

ดร.จิราพร ศิริคำ รองผู้ว่าการยุทธศาสตร์ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ในฐานะโฆษก กฟผ.เปิดเผยว่า ในสถานการณ์วิกฤตพลังงานที่ราคาก๊าซธรรมชาติหรือ LNG ในตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปลายปี 2564 จนถึงปัจจุบัน รวมทั้งอัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินที่อ่อนค่าลง ส่งผลกระทบโดยตรงต่อต้นทุนการผลิตไฟฟ้า ทำให้ค่าไฟฟ้าสูงขึ้น

กฟผ. ตระหนักถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อประชาชนเป็นอย่างยิ่ง จึงเร่งดำเนินการ ตามแนวทางการบริหารจัดการก๊าซธรรมชาติ ของคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) เมื่อวันที่ 6 มกราคม 2565 ด้วยการปรับแผนบริหารจัดการเชื้อเพลิงใหม่

โดยเลื่อนแผนการปลดโรงไฟฟ้าแม่เมาะ เครื่องที่ 8 ที่มีกำหนดปลดออกจากระบบผลิตไฟฟ้าในวันที่ 1 มกราคม 2565 ที่ผ่านมา เนื่องจากหมดอายุการใช้งาน ออกไปจนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2565 รวมระยะเวลาประมาณ 1 ปี ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนการผลิตไฟฟ้าในภาพรวมของประเทศลงได้ คาดว่า การเดิน